วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2553

แมว

แมว



ถิ่นกำเนิดของ American Curl


ในเดือน มิถุนายน ปี ค.ศ.1981 ในวัฒนธรรมแห่งสหรัฐอเมริกาสมัยใหม่ แมวพันธุ์ American Curl ถูกค้นพบใน ชุมชน California ของ Lakewood ของผู้อาศัยอยู่ที่ชื่อ Joe และ Grace Ruga (Curlniques Cattery) Joe กลับจากทำงานตอนเย็นนั้นและพบลูกแมว 2 ตัวอายุ 6 เดือนภายนอกบ้านของเขา จึงรับมาเลี้ยงดู พวกเขาตั้งข้อสังเกตว่าพวกมันมีหูที่เป็นวงนั้นจากหลังถึงหัว ดูแล้วเป็นที่น่าขัน ลูกแมวตัวที่เป็นพี่ มีสีดำกับขนยาวและอีกตัวหนึ่ง มีขนสีดำ และสีขาวและขนกึ่งยาว ทั้ง สองมีขนนุ่มเป็นมันเรียบคล้ายไหม ลูกแมวทั้งสองถูกตั้งชื่อว่าShulamith และ Panda ในเดือนธันวาคม ค.ศ.1981 หลังการตกลูกครอกแรกของ Shulamith พวกเขาจึงได้มองเห็นถึงการมีใบหูที่มีลักษณะที่พิเศษไม่เหมือนใครของมัน แสดงถึง

การค้นพบพันธุ์ใหม่ของแมว พวกเขาเริ่มต้นการวิจัยและการทดสอบเพาะพันธุ์โดยทันที ซึ่งนำมาสู่ การยอมรับและได้รับการจดทะเบียนเป็นแมวพันธุ์ใหม่ของโลกในปี ค.ศ.1986 ซึ่งแมวพันธุ์นี้ถือว่าเป็นแมวที่สามารถแบ่งพันธุ์ได้ทั้งสองชนิดคือมีทั้ง แบบ Shorthairและ longhair



ลักษณะโดยทั่วไป

ลักษณะพิเศษของ American Curl ที่ดึงดูดใจก็คือ หู เป็นวงหูอย่างมีอันเดียว เป็นลักษณะเฉพาะที่ไม่เหมือนแมวพันธุ์อื่น American Curl ที่เป็นพันธุ์ดั้งเดิม ตัวเมียที่เป็นชนิด longhaired ที่เรียกว่า Shulamith แรกบันทึกในCalifornia ทางใต้ในปี

1981 การเพาะพันธุ์แบบเลือกได้เริ่มต้นในปี 1983ทำให้มีหู เป็นวงอย่างสม่ำเสมอดี มีกล้ามเนื้อที่สมบูรณ์เหมาะสม, เรียวมากกว่าที่เป็นก้อนใหญ่โต ตัวเมียหนัก 5 ถึง 8 ปอนด์ ตัวผู้หนัก 7 ถึง10 ปอนด์ , สัดส่วนเหมาะสมและสมดุลสำคัญกว่าขนาด ตัวผู้จะมีลักษณะ สวยงามและสง่างามกว่าตัวเมีย



ศีรษะ



รูปร่าง: เป็นรูปลิ่มไม่แบนราบ อย่างพอประมาณยาวกว่ากว้าง ระนาบราบรื่น

โครงร่าง: จมูกมี ความยาวและตรงพอประมาณ และนูนล็กน้อยขี้นจากด้านล่างของตาถึงหน้าผาก เส้นโค้งที่ได้รูปไปถึงด้านบนสุดของหัว ไปจนถึงใต้ลำคอ

ขนาด: ปานกลางในสัดส่วนเมื่อเทียบกับร่างกาย

คาง: แน่น แข็ง,แนวเดียวกับจมูกและริมฝีปากล่าง

ใบหู



องศา: น้อยที่สุด 90 ส่วนโค้งองศาเป็นวง ไม่เกิน 180 องศา แน่นด้วย cartilage จากพื้นฐานหูถึงอย่างน้อย 1/3 ของความสูง

รูปร่าง: กว้างที่ฐานและเปิด, เส้นโค้งหลังในส่วนโค้งราบเรียบเมื่อดูจากด้านหน้าและด้านหลัง

ขนาด: ใหญ่อย่างพอประมาณ

ที่ตั้ง: ตั้งตรงอยู่บริเวณส่วนบนแต่ละด้านของหัวอย่างเท่าๆกัน

หมายเหตุ: เมื่อหูมีการตื่นตัวเกิดขึ้น หูจะเหยียดชี้ตรงไปด้านหน้า, เส้นตามความโค้งของหูจะชี้ไปยังศูนย์กลางฐานของกระโหลกศีรษะ(เส้นโค้งที่ลาก ผ่าน ตามความโค้งของหูผ่านปลายสุดของหูเลย 90 และสูงถึง180 องศา อาจจะ intersect

ที่จุดไกลกว่าขึ้นบนกระโหลกศีรษะ แต่ไม่เลยจุดสูงสุดของกระโหลกศีรษะ)



ร่างกาย ดวงตาใหญ่ กลมรีเหมือนเมล็ดอัลมอน สี Hazel เขียว หรือเหลือง เท่านั้น มีเส้นสีดำ


รูปร่างลำตัว กึ่งต่างประเทศ เป็นสี่เหลียมผืนผ้า, ความยาว 1 และ 1 ใน 2 ความสูงที่บ่า,ความลึกกลางของหน้าอกและสีข้าง

ขนาด ปานกลาง, แต่ตัวผู้มักขนาดใหญ่กว่า

ลักษณะกล้ามเนื้อ ความแข็งแรงพอประมาณและน้ำเสียงมีการ เปลี่ยนแปลง

หาง งอได้, กว้างที่ฐาน,เรียวเท่าตลอดความยาวร่างกาย

ขา ความยาวปานกลางในสัดส่วนเพื่อร่างกายตั้งโดยตรงเมื่อดูจากด้านหน้าหรือด้านหลัง

ขนาดกระดูกปานกลางไม่ใหญ่และหนัก

คอ ปานกลาง

เท้า ปานกลาง



ลักษณะขนของ American Curl

Longhair



การทอของขน: นุ่มปานกลางเป็นมันคล้ายไหมปกคลุมทั่วร่างกาย

ความยาวขน: กึ่งยาว

ขนหาง: เต็มและแต่งคล้ายขนนก

Shorthair



การทอขอขน: อ่อนนุ่มเป็นมันคล้ายไหมปกคลุมทั่วร่างกาย ยืดหยุ่นได้โดยไม่รู้สึกทึบ หนาเกินไป

ความยาวขน: สั้น

ขนหาง: ความยาวเท่ากับความยาวขนที่ปกคลุมร่างกาย



สีของ American Curl



สีขาว: สีขาวประกายบริสุทธิ์ ปลายจมูกและอุ้งเท้าเป็นสีชมพู

สีดำ: สีดำถ่านหินทึบจากรากถึงปลายสุดของขน บริเวณหนังจมูกสีดำ ส่วนอุ้งเท้าเป็นสีดำหรือสีน้ำตาล

สีน้ำเงิน: สีน้ำเงิน , น้ำเงินสว่าง ระดับจากจมูกถึงปลายของหาง สีทึบได้รับการยอมรับกว่าสีสว่าง บริเวณหนังจมูกและอุ้งเท้าเป็นสีน้ำเงิน

สีแดง: ลึก, ฉูดฉาด, สดใส, ประกายสีแดงสว่างไสว ปราศจากเงามืดหรือสีอื่นเจือปน ริมฝีปากและคางสีเดียวกับขน บริเวณจมูกและอุ้งเท้าเป็นสีอิฐสีแดง

สีครีม: สีเงาหนึ่งระดับของครีมสีเหลืองอ่อน โดยปราศจากตำหนิ บริเวณหนังจมูกและอุ้งเท้าเป็นสีชมพู

สีช็อคโกแลต: สีน้ำตาลช็อคโกแลตอุ่น จากรากถึงปลายของขน บริเวณหนังจมูกและอุ้งเท้าเป็นสีน้ำตาล

สี LILAC: สีทึบ ปกคลุมด้วยสี lavender โทนสีชมพู หนังจมูกและอุ้งเท้าเป็นสีชมพู

CHINCHILLA สีเงิน: ผิวหนังใต้ขนบริสุทธิ์สีขาว ขนบนหลัง, สีข้าง, หัว, และหาง บริเวณปลายขนเป็นสีดำปรากฏเงินที่เป็นประกาย ขาอาจเป็นเงาเพียงเล็กน้อยบริเวณปลายขน ส่วนของคาง, หู , ท้อง, และหน้าอกมีสีขาว บริเวณขอบของตา, ริมฝีปาก, และจมูกเป็นสีดำ ส่วนหนังจมูกมีอิฐสีแดง และบริเวณอุ้งเท้าเป็นสีดำ



แมวพันธุ์ Singapura


ถิ่นกำเนิดของ Singapura

ชื่อพันธุ์ Singapura ตั้งตามถิ่นกำเนิดของแมวคือประเทศสิงคโปร์ นับว่าเป็นหนึ่งในชนิดที่หายาก และถือว่าพันธุ์ที่มีขนาดเล็กที่สุดอีกด้วย โดยมีนำหนักประมาณ 4-9 ปอนด์ และมีเพียงสี Sepia agouti เท่านั้น คือสีน้ำตาลแต้มบนสีงาช้าง มีเพียงหน้าและขาด้านในที่มีแถบสีเข้มอยู่เป็นแถบประวัติ

Singapura แมวพันธุ์ Singapura เป็นแมวพันธุ์พื้นเมืองของสิงคโปร์ และมีจำนวนไม่มาก บางครั้งถูกเรียกว่า Drain cat เนื่องจากอาศัยอยู่ตามท้องถนน แต่ลักษณะเฉพาะตัวของมันได้ไปต้องตา Hal กับ Tommy Meadow ขณะที่เขาได้อาศัยอยู่ในสิงคโปร์ และได้ถูกนำเข้าไปในสหรัฐอเมริกาครั้งแรกเมื่อปี 1971 และนำเข้าเรื่อยมาตั้งแต่ปี 1980 Singapura ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์จนเป็นที่รู้จักและได้รับรางวัลในปี 1988 และเนื่องจากไม่นิยมผสมข้ามพันธุ์ จึงมีเพียง 2000 ตัวในโลก


ลักษณะโดยทั่วไป


Singapura โดยทั่วไป เป็นแมวขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ร่าเริง แข็งแรง มีใบหูและดวงตาที่ใหญ่ และสีสันที่งดงาม แมวตัวเมียโตเต็มวัยอาจหนักเพียง 4 ปอนด์ขณะที่ตัวผู้อาจหนักถึง 6 ปอนด์ แม้ตัวเล็กแต่พวกมันก็ล่ำสัน กระฉับกระเฉง แข็งแรง ไม่ใช่พวกขี้โรคหรือบอบบาง

ศีรษะ กะโหลกกลม ระยะห่างตาพอดี ปากและจมูกกลมมน โหนกแก้มสูง

ใบหู ใหญ่และบอบบาง ฐานเปิดกว้าง เหมือนถ้วยก้นลึก ขอบใบหูแหลมเป็นมุม

ตา ดวงตาใหญ่ กลมรีเหมือนเมล็ดอัลมอน สี Hazel เขียว หรือเหลือง เท่านั้น มีเส้นสีดำ

ลำตัว ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง เมื่อลำตัว ขากับพื้นจะเป็นรูปร่างสี่เหลี่ยม ล่ำสัน กระฉับกระเฉง

ลำคอ สั้น หนา พุ่งตรงไปข้างหน้า

ขาและเท้า อุ้งเท้าเล็ก ฝ่าเท้าสีน้ำตาลแดง มีขนสีน้ำตาลระหว่างนิ้วเท้า ตัดกับขาสีงาช้าง

หาง ยาวประมาณไหล่เมื่อวางพาดลำตัว ตั้งตรงไม่คดงอ ปลายมน

ขน ขนสั้นเกรียนติดผิวหนัง เรียบลื่นและแวววาว คล้ายกับที่พบในแมวพันธุ์ Abyssinian กระต่าย กระรอก ตัวโกเฟอร์ มีแถบสีที่ขาหน้าด้านในและเข่าหลัง

เสียง นุ่มและกังวาน

ลักษณะที่ให้โทษ เหลือบขนสีเทา โคนขนสีเทา แถบสีที่ขาหน้าด้านนอก มีเส้นรอบคอ ไม่มี Cheetah line หางเสียแต่ไม่เป็นที่สังเกต

ลักษณะที่ไม่คัดเลือก มีจุดขาว แถบสีที่หาง กระหม่อมบาง มีแถบที่คอไม่ครบหรือแถบรอบขา มีหูหรือดวงตาที่เล็กมากๆ หางเสีย ตาสีฟ้า สีขนสีอื่นนอกจากสี Sepia agouti



ลักษณะสีขน

Singapura มีเพียงสี Sepia agouti เท่านั้น คือสีน้ำตาลเข้มแต้มบนพื้นสีงาช้าง โดยแต้มสีน้ำตาลสลับกับแต้มสีงาช้างในเส้นขน ปลายขนสีเข้ม ปลายหางสีเข้ม ปากและจมูก แก้ม อก ท้อง และโคนขนเป็นสีผ้ามัสลินที่ยังไม่ฟอก บริเวณขาหน้าด้านในและเข่าด้านนอก มีแถบสีเข้มเป็นแถบๆ ซึ่งจะไม่พบในลูกแมว ขนระหว่างนิ้วเท้าเป็นสีน้ำตาล บริเวณหน้า คิ้วและมุมตาด้านนอกขอบตา ริมฝีปาก เครา เส้นจมูก สีน้ำตาลเข้ม มีเส้น Cheetah line จากมุมด้านในไปดั้งจมูก โหนกแก้มด้วยเช่นกัน จมูกสีชมพูอ่อนถึงแก่ ฝ่าเท้าสีน้ำตาลแดง



ลักษณะนิสัย

เป็นแมวที่ชอบความอบอุ่น นักล่าที่ดี ร่าเริง มีชีวิตชีวา สนใจสิ่งรอบข้าง ฉลาด ชอบอยู่ใกล้คนและไม่ก้าวร้าวกับสัตว์อื่น ชอบเล่นอะไรแปลก ๆ ชอบท่องเที่ยว ชอบนอนบนตัวคนและชอบอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน

ปัญหาสุขภาพ

ไม่มีปัญหาเรื่องพันธุกรรม

การซื้อขาย

เนื่องจากแมวพันธุ์ Singapura เป็นพันธุ์ที่หายาก ราคาของแมวจะขึ้นอยู่กับชนิด แถบสีบนตัว Singapuraลักษณะ และสายพันธุ์ซึ่งรองรับโดย Grand Champion (GC), National or Regional winning parentage (NW or RW) or of Distinguished Merit parentage (DM) นักผสมพันธุ์จะคัดเลือกลูกแมวอายุ 12 สัปดาห์มาฝึก พัฒนาลักษณะและความเสถียรภาพทางอารมณ์เพื่อให้คุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมใหม่ การแสดงตัวหรือการขนส่งทางอากาศ



การเข้าร่วมสมาคม

แมวพันธุ์ Singapura ได้รับการยอมรับจากสถาบันแมวมากมาย

มาตรฐาน

ตามมาตรฐานของ TICA (The International Cat Association)

รูปร่างศีรษะ กะโหลกต้องกลม ไม่โดม ไม่แบน ดวงตาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม รูปร่างของศีรษะเป็นส่วนที่มีน้ำหนักมากที่สุดในการตัดสิน อาจยกเว้นเรื่องกรามในแมวตัวผู้ที่โตเต็มวัยแล้ว



หู ใหญ่ ชี้ในทิศทางที่เหมาะสม ฐานกว้างเหมือนถ้วยก้นลึก ซึ่งเหมาะกับลักษณะที่ใหญ่ ขนหลังใบหูสีอ่อน



ดวงตา ดวงตาใหญ่ รูปร่างรีเหมือนเม็ดอัลมอนด์ หนังตาสีเข้มขอบสีอ่อน ลายบนหน้าขับความเด่นให้ดวงตา ระยะห่างตาเหมาะสม ไม่แคบเกินไป สีตาต้องเป็นสีเขียว หรือสีเขียวคาเลโดเนีย สี Hazel สีทอง หรือทองแดง ไม่ใช่สีฟ้า เทา หรือฟ้าใส

แก้ม กลมมน

ปากและจมูก สั้นพอดีกัน จมูกมน ไม่เรียวหรือชี้ หรือเหมือนหมาป่า โหนกแก้มสูง

โครงร่าง สั้น

ลำคอ สั้นและหนา

ตัว กลางถึงเล็ก ลำตัว ขาและพื้นควรมองดูเป็นรูปสี่เหลี่ยมเมื่อมองจากไหล่ไปยังโคนหาง ขอบซี่โครงกลม หลังลาด

ขาและเท้า ขาหนักและสมส่วน เท้าเล็ก มน

หาง ยาวต่ำกว่าไหล่เมื่อวัดเทียบกับลำตัว พุ่งตรง เรียว ไม่คดงอ และปลายมน

กระดูก กล้ามเนื้อ ล่ำสันแต่ไม่อ้วน น้ำหนักไม่เกินพอดี คอและอกสมส่วน อาจจะเห็นสะโพกตรงเมื่อเทียบกับคอและไหล่ สิ่งนี้ไม่นับว่าผิดปกติในแมวรุ่น

ความยาวและผิว เรียบติดลำตัว ไม่มีจุดสี ขนลูกแมวอาจยาว

ลาย ลายหนา แต้มสีอ่อนและเข้มทั่วไป โคนขนสีอ่อน ปลายสีเข้ม มีลายที่หลัง ที่ว่างระหว่างหูควรมีสีเข้มและหนา ขนหน้าท้องบาง ความหนาของขนที่เป็นบางช่วงถือเป็นลักษณะเด่นของพันธุ์ มีแถบบนขาหน้าด้านในและเข่าซึ่งเป็นลักษณะเด่นเช่นกัน เห็นได้ชัดเมื่อโตเต็มวัย แถบด้านนอกขาหน้าถือว่าผิดปกติ มี Cheetah line ที่เห็นได้ชัด อาจพบลายตัว M บนหัว

สี สีพื้นสีงาช้างจนออกเหลือง ปากและจมูก แก้ม อก ท้อง และโคนขนเป็นสีผ้ามัสลินที่ยังไม่ฟอก จมูก สีชมพูอ่อนถึงแก่ บริเวณหน้า คิ้วและมุมตาด้านนอกขอบตา ริมฝีปาก เครา เส้นจมูก สีน้ำตาลเข้ม ฝ่าเท้าสีน้ำตาลเข้มโทนแดง ขนระหว่างนิ้วเท้าเป็นสีน้ำตาล ปลายหางสีเข้ม หูและดั้งจมูกสีชมพูแก่



ลักษณะที่เด่นคือสีเข้ม ประกายสว่าง แถบสีตัดกันอย่างชัดเจน ต้องไม่มีโทนสีเทา อาจยกเว้นได้ในลูกแมวซึ่งจะหายไปตามอายุ





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น